วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

พุทธศาสนสุภาษิต : ทาน

นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺห  อปฺปกา นาม ทกฺขิณา เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทักขิณาทานชื่อว่าน้อยย่อมไม่มี
วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ    การเลือกให้ อันพระสุคตทรงสรรเสริญ
พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ    คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน
ททํ มิตฺตานิ คนฺถต   ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
ททมาโน ปิโย โหติ     ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
สุขสฺส ทาตา เมธาวี     สุขํ โส อธิคจฺฉติ     ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข
เสฏฐนฺทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ    ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ
 
อคฺคสฺมึ ทานํ ททต     อคฺคํ ปุญฺญํ ปวทฺฒติ อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ 
เมื่อให้ทานในวัตถุอันเลิศ บุญอันเลิศ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุข และ กำลังอันเลิศ ก็เจริญ
อคฺคทายี วรทาย     เสฏฺฐทายี จ โย นโร ทีฆายุ ยสวา โหติ     ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชติ 
ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ให้สิ่งที่ดี ให้สิ่งที่ประเสริฐ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศ ในภพที่ตนเกิด


ปุพฺเพ ทานาทิกํ ทตฺวา     อิทานิ ลภตี สุขํ มูเลว สิญฺจิตํ โหติ     อคฺเค จ ผลทายกํ 
ให้ทานเป็นต้นก่อน จึงได้สุขบัดนี้ เหมือนรดน้ำที่โคนให้ผลที่ปลาย
ยถา วาริวหา ปูรา     ปริปูเรนฺติ สาคร เอวเมว อิโต ทินฺนํ     เปตานํ อุปกปฺปติ 
ห้วงน้ำที่เต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด ทานที่ให้แต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ละไปแล้วฉันนั้น

โส จ สพฺพทโท โหติ     โย ททาติ อุปสฺสยํ อมตนฺทโท จ โส โหติ     ธมฺมมนุสาสติ 
ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ผู้นั้นชื่อว่าให้สิ่งทั้งปวง ผู้ใดสอนธรรม ผู้นั้นชื่อว่าให้อมตะ


อนฺนโท พลโท โหติ       ผู้ให้ข้าวชื่อว่าให้กำลัง
 
วตฺถโท โหติ วณฺณโท          ผู้ให้ผ้าชื่อว่าให้ผิวพรรณ
 
                ยานโท สุขโท โหติ         ผู้ให้ยานพาหนะชื่อว่าให้ความสุข
 
               ทีปโท โหติ จกฺขุโท       ผู้ให้ประทีปโคมไฟชื่อว่าให้จักษุ
 


อเทยฺเยสุ อททํ ทานํ     เทยฺเยสุ โย ปเวจฺฉติ อาปาสุ พฺยสนํ ปตฺโต     สหายํ อธิคจฺฉติ 
ผู้ใดไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ แต่ให้ทานในคนที่ควรให้ เมื่อประสบปัญหา ย่อมได้พบผู้ช่วยเหลือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น